ป็อกบา

มรสุมชีวิต ย้อนไทม์ไลน์คดีโด๊ป ป็อกบา

มรสุมชีวิต ย้อนไทม์ไลน์คดีโด๊ปสะเทือนวงการลูกหนังของ ปอล ป็อกบา หลังองค์กรต่อต้านสารกระตุ้นแดนมะกะโรนี ชงเรื่องให้แบนยาว 4 ปี เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ? ต้นเหตุมาจากไหน ? และเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ? ขณะที่สื่อแดนผู้ดีระบุส่อขึ้นศาลไต่สวนครั้งสุดท้ายต้นปีหน้า หากถูกตัดสินว่าผิดจริง ชีวิตพ่อค้าแข้งของดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก 2018 ก็แทบจะจบโดยปริยาย

ป็อกบา

ชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของ ปอล ป็อกบา กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย หลังอัยการด้านคดีต่อต้านสารกระตุ้นของอิตาลี (NADO) เสนอบทลงโทษให้แบนเจ้าตัวยาวถึง 4 ปี หลังจากการสอบสวนกรณีที่ดาวเตะยูเวนตุส ถูกตรวจพบสาร “เทสโทสเทอโรน” หรือฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งเป็นสารกระตุ้นต้องห้ามในเกมเปิดฤดูกาลที่ “ม้าลาย” บุกชนะ อูดิเนเซ 3-0 เมื่อ 23 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น เสร็จสิ้นเรียบร้อย

มิดฟิลด์วัย 30 ปี ถูกสุ่มตรวจสารกระตุ้นและสารต้องห้าม หลังเกมบุกชนะ อูดิเนเซ ซึ่งเจ้าตัวเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม โดยผลการตรวจตัวอย่างปัสสาวะ A ออกมาเมื่อ 11 ก.ย. ออกมาเป็นบวก โดยตรวจพบฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ส่งผลให้ ป็อกบา โดนแบนชั่วคราว หลังจากนั้น ดาวเตะเลือดน้ำหอม ควักเงิน 600 ยูโร เพื่อให้มีการตรวจตัวอย่างปัสสาวะ B ในห้องแล็บที่ได้รับการรับรองจากองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (WADA) ก่อนที่ออกมาเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมาว่ายังคงเป็นบวก

ก่อนหน้านี้ สื่อทั้งในอิตาลีและฝรั่งเศส รายงานว่า ต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากการที่ ป็อกบา ซื้ออาหารเสริมมารับประทาน ขณะไปพักผ่อนที่ไมอามี สหรัฐอเมริกา ซึ่งอาหารเสริมดังกล่าวกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน DHEA ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการให้ร่างกายนำไปผลิตฮอร์โมนหลายชนิด รวมถึงเทสโทสเทอโรน ซึ่งมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้น โดยการซื้ออาหารเสริมมารับประทานเองดังกล่าว เป็นจุดที่ดาวเตะเลือดน้ำหอมพยายามนำมาแย้งข้อกล่าวหา

โดยระบุว่าเป็นการกระทำโดยไม่เจตนา หลังสอบสวนเสร็จเรียบร้อย อัยการด้านคดีต่อต้านสารกระตุ้นของอิตาลี (NADO) ชงเรื่องเมื่อ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ให้มีการลงโทษแบนดาวเตะเลือดน้ำหอมถึง 4 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุด และเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (WADA)

อย่างไรก็ตาม หากนักกีฬาสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เจตนา และอยู่นอกเหนือเวลาการแข่งขันจนทำให้ฮอร์โมนเหล่านั้นสลายตัวและไม่ได้มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายแล้ว หรือพิสูจน์ได้ว่าสารกระตุ้นเกิดจากการปนเปื้อน หรือตัวนักกีฬานำตัวยาหรืออาหารที่เป็นสารกระตุ้นต้นเรื่องมาให้ตรวจสอบเพื่อช่วยในการสอบสวน โทษแบนอาจถูกลดลงมาเหลือต่ำสุด 3 เดือน

ทั้งนี้ “สกายสปอร์ตส์” สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ในอังกฤษ รายงานว่า ป็อกบา และทีมทนาย เลือกที่จะไม่รับสารภาพเพื่อขอลดโทษแต่อย่างใด ส่งผลให้จะมีการไต่สวนครั้งสุดท้ายเพื่อชี้ชะตาอนาคตการค้าแข้งของดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก 2018 ในช่วงต้นปี 2024 ซึ่งหากผลการพิพากษาออกมาว่าผิดจริง หมายความว่าดาวเตะวัย 30 ปี จะถูกแบนยาว 4 ปี ซึ่งเท่ากับว่าอนาคตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเจ้าตัวแทบจะจบลงโดยปริยาย